สร้างธุรกิจยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อการบริโภคและผลิต  (Responsible Consumption and Production)

ปัจจุบันธุรกิจทุกภาคส่วนล้วนมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ การใช้ทรัพยากรทั้งน้ำ ไฟฟ้า และการผลิตขยะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ แต่ยังส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และการดำรงชีวิตของทุกคนอีกด้วย การที่ธุรกิจไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ในปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

การส่งเสริมการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน 
MFEC มีความมุ่งมั่นในการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ยังสามารถสร้างการเติบโตผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีคุณภาพสูง แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การเลือกใช้ทรัพยากรไปจนถึงการจัดการเมื่อสินค้าสิ้นอายุการใช้งาน โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้   

1. การเลือกใช้ทรัพยากร 
ประเมิน และเลือกวัตถุดิบหรือทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตอย่างรอบคอบ โดยมีเป้าหมายหลักในการลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่สามารถหมุนเวียนได้ และเพิ่มการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ นอกจากนี้วัตถุดิบที่เลือกใช้ต้องไม่ทำลายระบบนิเวศหรือสังคมท้องถิ่น และไม่มีการใช้แร่ที่มีข้อขัดแย้ง ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือการทำลายสิ่งแวดล้อม   

2. ขั้นตอนการใช้งาน
ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ MFEC มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยลดการใช้พลังงานและทรัพยากรต่าง ๆ ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพสูง โดยการออกแบบต้องคำนึงถึงความสามารถในการซ่อมแซม การอัปเกรด และการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ เพื่อลดความต้องการในการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่บ่อยครั้ง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากขยะอิเล็กทรอนิกส์และการใช้ทรัพยากรใหม่   

 3. การจัดการสินค้าเมื่อสิ้นอายุการใช้งาน 
จัดตั้งโครงการรับคืนผลิตภัณฑ์จากลูกค้า เพื่อนำกลับมาสู่กระบวนการผลิตใหม่หรือนำไปรีไซเคิล พร้อมทั้งให้คำแนะนำและข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการจัดการผลิตภัณฑ์ที่สิ้นอายุอย่างถูกวิธีแก่ลูกค้า และแสดงให้เห็นถึงการจัดการทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่ถึงวาระสิ้นอายุการใช้งานอย่างโปร่งใส  

4. การตรวจสอบและปรับปรุง  
ทำการตรวจสอบและปรับปรุงหลักเกณฑ์ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด MFEC ได้ร่วมมือกับผู้จัดหาวัตถุดิบ ผู้ผลิต และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและปรับปรุงเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้และฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติงานที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง  

“GreenTech Impact” 
การใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

นอกจากการกำหนดหลักเกณฑ์ตั้งแต่การเลือกใช้ทรัพยากรไปจนถึงการจัดการเมื่อสินค้าสิ้นอายุการใช้งาน MFEC ในฐานะผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี ยังได้คำนึงถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ส่งเสริมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 

Cloud Technology 
การใช้ซอฟต์แวร์ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม แต่การใช้พลังงานที่มากเกินไปจากการใช้อุปกรณ์ไอทีส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ที่สูงขึ้น การใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์บนคลาวด์แทนการจัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์จึงเป็นส่วนช่วยในประหยัดพลังงานลงได้ 

Green Data Center 
Data Center ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล การใช้อุปกรณ์ภายใน Data Center ให้มี Efficient มากขึ้นจึงเป็นส่วนสำคัญในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น Flash Array ที่ทันสมัย ขนาดเล็กลง จะช่วยให้ประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้น เป็นต้น

Vibecards 
นามบัตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี NFC เพียงแตะครั้งเดียวก็สามารถแบ่งปันข้อมูลการติดต่อได้ทันที ช่วยลดการใช้กระดาษจากนามบัตรแบบเดิม ๆ ลดมลพิษทางอากาศที่เป็นปัญหาหนึ่งของภาวะโลกร้อน

IoT Sensor 
ประยุกต์ใช้ Smart Sensor ติดตั้งในบริเวณที่ต้องการเก็บข้อมูลและวัดผลที่ได้อย่าง real-time เพื่อติดตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ค่าออกซิเจน, จำนวนคาร์บอน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ต้นไม้ ป่า หรือจากอาคารหรือโรงงาน เพื่อช่วยให้สามารถวางแผนจัดการค่าพลังงานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และวิเคราะห์ทำนายแนวโน้มค่าพลังงานที่เกิดขึ้นในอนาคตได้ 

Carbon Accounting Platform / ESG Platform 
ใช้สำหรับการ Monitor E-S-G Dimension บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม ช่วยให้กำหนดและทบทวนกลยุทธ์องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต เพื่อหาวิธีการจัดการควบคุมต่อไป 

การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรควรให้ความสนใจ การปรับตัวเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแค่ช่วยให้โลกดีขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย